ฉันยืนเด๋อด๋า อยู่กับเพื่อนสาว ที่ชื่อ เอ๋ หรือ กนกพร วิวัฒนาการ ที่หน้าโรงเรียนวัดราชบพิธ หลังจากที่แบกหนังสือและอุปกรณ์ส่วนหนึ่ง ในการทำหนังสือทำมือ ขึ้นไปถึงห้องสมุด เห็นห้องเงียบเชียบ ก็นึกแปลกใจว่า เอ.. กิจกรรมของอาจารย์สิริกาญจน์ ยกเลิกไปหรือเปล่า

ไม่ใช่ค่ะ ไม่ยกเลิก ฉันก็เพิ่งจะทราบ ณ วินาทีนี้ว่า โรงเรียนวัดราชบพิธ เขามี โรงเรียนใหญ่ (ตรงที่ฉันยืนอยู่นี้) กับ โรงเรียนเล็ก (ก็คือสถานที่จัดกิจกรรมของอาจารย์สิริกาญจน์) ซึ่งเป็นสถานที่เรียนของนักเรียนชั้นม. 1 อยู่ในบริเวณวัดราชบพิธ ตาสว่างแล้วเราก็รีบเรียกรถสามล้อไปยังวัดราชบพิธต่อทันที

นั่นไง ห้องสมุด อยู่ติดกับประตูทางเข้าเลยทีเดียว และกิจกรรมทำหนังสือทำมือของเราจะเริ่มแล้วค่ะ น้องๆ ชั้น ม. 1 กำลังนั่งรอเราด้วยดวงตาใสแจ๋ว

เรามาที่นี้ได้อย่างไร

คงต้องเท้าความสักเล็กน้อยว่า หนุ่มๆ สาวๆ แวดวงนักเขียน และศิลปะ ที่มักแวะเวียนไปที่ร้านอาหารชื่อ มูนชายน์บาร์ ได้รวมตัวกันขึ้นอย่างหลวมๆ ในชื่อ มูนชายน์ฟอรัม เพื่อทำประโยชน์ให้สังคมบ้าง เท่าที่กำลังของเราจะทำได้ มีหัวเรือใหญ่ คือน้องเอ๋ กนกพร กิจกรรมหลักของเรา คือ จัดค่ายศิลปะเด็ก ซึ่งเป็นงานอาสาสมัคร ที่ทำด้วยหัวใจ ไม่ได้มีทุนสนับสนุนจากองค์กรธุรกิจใดๆ มีแต่หัวใจกับความตั้งใจค่ะ

คราวนี้เป็นกิจกรรมในเมือง เป็นคั่นเวลา ก่อนที่พวกเราจะไปทำค่ายศิลปะเด็ก ที่เกาะช้าง น้องเอ๋ได้รับเชิญจากอาจารย์ สิริกาญจน์ ศิริพานิช โรงเรียน วัดราชบพิธ ให้ไปจัดกิจกรรมค่ายศิลปะเด็ก แล้วน้องเอ๋ก็ประสานงานมายังศิลปินที่มีเวลาว่างในวันกิจกรรม ประกอบด้วย ฉัน ในฐานะตัวแทนสำนักพิมพ์คมบาง, น้องปุ้ย ระวิวรรณ ศรีสยาม จากเครือข่ายนักเขียนแห่งประเทศไทย , ป๋อง ใบไม้ป่า จากนิตยสารลัช, ศิลปินตัวจริง พี่โร อนุชิต กลิ่นกุหลาบ และ แขกรับเชิญคนสำคัญ คือ พี่เอก วิชัย จงประสิทธิ์พร พิธีกร รายการจุดเปลี่ยน มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย พี่เอก ก็เป็นคนหนึ่งที่เคยทำหนังสือทำมือกับเขาเหมือนกัน พี่เอกบอกว่า อยากให้น้องๆ ได้ทำอะไรดีๆ และอยากช่วยส่งเสริมให้น้องๆ ได้รักการอ่านด้วย

กิจกรรมวันนี้เน้นการผสมผสาน การเขียน และการสร้างสรรค์งานศิลปะ มาทำหนังสือทำมือส่วนตัวกันคนละเล่ม เด็กๆ จะได้เรียนรู้การเขียน และการทำเป็นรูปเล่มหนังสือทำมือ โดยใช้ศิลปะมาช่วยทำให้หนังสือของแต่ละคน น่าสนใจ

ได้เวลาเริ่มกิจกรรมแล้วค่ะ

ฉันเริ่มต้นทำความรู้จักกับนักเรียนหนุ่มน้อยทั้งหลาย ด้วยการสืบถามพฤติกรรมการอ่าน ผลที่ได้รับก็คือ หนุ่มๆ ของฉันเป็นแฟนการ์ตูนตัวยงค่ะ มีตั้งแต่ โดราเอมอน ดรากอนบอล และอีกหลายๆ เรื่อง ที่ฉันก็ไม่รู้จักเลย แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ เด็กๆ หลายคนได้อ่านการ์ตูนไทยค่ะ เพราะปัจจุบันมีหลายสำนักพิมพ์ที่นำวรรณคดีไทยมาทำเป็นการ์ตูน เด็กๆ จึงรู้จัก รามเกียรติ์, พระอภัยมณี ในฉบับการ์ตูน ก็นับเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับเด็กไทย นอกจากนี้ยังมีการ์ตูนจำพวก สารคดีผจญภัย ซึ่งเขียนเป็นการ์ตูน เด็กผู้ชายชอบมากค่ะ เช่น เรื่องประเภท ผจญภัยในถ้ำลึก หรือผจญภัยในไซบีเรีย ฯลฯ

แต่ก็เป็นที่น่าเสียดาย ที่หนุ่มน้อยของเราไม่ได้อ่านวรรณกรรมที่เป็นตัวหนังสือล้วนๆ กันเลยค่ะ

ฉันให้หนุ่มๆ ได้เขียนงานชิ้นง่ายๆ ด้วยการเขียนถึงตัวเอง จะเป็น เรื่องจริง (non-fiction) หรือ เรื่องแต่ง (fiction) ก็ได้ ผลปรากฏว่า เราได้มองเห็นโลกน่ารักๆ รอบตัวของหนุ่มน้อย โลกรอบโรงเรียน เช่น ลุงขายน้ำปั่นใจดี ที่ชอบตั้งชื่อเครื่องดื่มให้ประหลาด รถติดรอบโรงเรียนเพราะม็อบ รถติดตั้งแต่วันเปิดเทอมวันแรก ประวัติวัดราชบพิธ การเดินทางจากบ้านมาโรงเรียน หรือ โลกในความทรงจำ เช่น ประสบการณ์อุบัติเหตุที่น่าตื่นเต้น ประสบการณ์แอบมองสาวๆ หรือ โลกแห่งจินตนาการ เช่น อยากเป็นยอดมุนษย์
ผลงานเขียนจะเป็นหน้าแรกของหนังสือทำมือ

เมื่องานเขียนเสร็จกันแล้ว วิทยากรก็มาครบพอดี เด็กๆ ตื่นเต้นกับพี่เอก วิชัยมากพอสมควร แต่ก็ยังทำนั่งนิ่ง ไม่ค่อยกล้าสบตา จนพี่เอกต้องไปทักทายแต่ละคน พร้อมกับเริ่มเอาผลงานของเด็กๆ มาอ่าน และให้กำลังใจแก่น้องๆ ทุกคน แน่นอนค่ะ งานเขียนของแต่ละคนก็มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจทั้งนั้น พี่เอกยังเอ่ยปากชม

จากนั้นเราก็นำกระดาษขนาดเอ4 มาพับครึ่ง จำนวน 10 แผ่ น เพื่อเป็นเนื้อในของหนังสือทำมือ ไม่ลืมผลงานเขียนของแต่ละคน พร้อมด้วยปกอีก 1 ปก เจาะกระดาษและปก 5 รู แล้วเอาเชือกร้อย มัดเป็นสันหนังสือ โดยร้อยขึ้นลงเหมือนกับการเนาผ้า มัดให้แน่น แล้วจึงประดับประดาตกแต่งด้วยวัสดุเหลือใช้ต่างๆ เด็กๆ สนุกสนานกันมากค่ะ ส่งเสียงถามพี่ปุ้ย และพี่ป๋องกันใหญ่ ว่าจะทำอย่างไรให้สวย (กว่าของเพื่อน-ฮา)

จากนั้นพี่โร มาเพิ่มวิชาการศิลปะ ด้วยการแนะนำให้เด็กสร้างสรรค์ภาพปก ด้วยศิลปะ บางคนก็ใช้วิธีวาดรูป ฝนสี ระบายสี หรือบางคนก็ทำภาพป๊อปอัพ เป็นคนเด้งออกมาที่หน้าปก (เก๋มาก)

ข้อสังเกตคือ หนุ่มๆ ของเรา มีทักษะทางด้านศิลปะที่ดีมาก วาดรูปได้อย่างชำนาญและสวยงาม มีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่ล้นเหลือ น่าจะเป็นเพราะเด็กๆ ชอบการ์ตูนนั่นเอง

เมื่อผลงานของแต่ละคนเริ่มเสร็จ พี่เอก วิชัย ทำหน้าที่ผู้ให้คะแนน โดยทำผลงานของน้องๆ มานำเสนอหน้าห้อง พร้อมทั้งให้กำลังใจอย่างล้นเหลือ เพราะพี่เอกทึ่งเหลือเกิน กับฝีมือของน้องๆ ทั้งการเขียน การวาดภาพ และการประดับประดาตกแต่งให้เป็นหนังสือทำมือที่สวยงาม

พี่เอก เลือกงานงานของน้องๆ มา 3 ชิ้น ให้รางวัล โดยพิจารณาจากทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ และเนื้อหางานเขียนค่ะ

เป็นกิจกรรมศิลปะการทำหนังสือทำมือ ที่สนุกสนาน ฉันมองเห็นว่า เด็กๆ เป็นวัยที่เปิดรับความคิดและจินตนาการมากทีเดียว หนุ่มน้อยทุกคน ใฝ่รู้ และมีความสุขในการทำหนังสือทำมือจริงๆ

ขอบคุณน้องๆ โรงเรียนวัดราชบพิธ ที่ทำให้พวกเราได้เห็นโลกน่ารักและสดใส ของเด็กๆ

ตีพิมพ์ครั้งแรกใน นิตยสารสกุลไทย รายสัปดาห์ ฉบับที่ 2805
22 กรกฎาคม 2551