ขอแนะนำหนังสือดีอีกเล่มหนึ่ง   อ่านแล้วซึ้งแถมไพเราะเสนาะหู   ชื่อ “ขวัญสงฆ์”         จงโปรดทราบตามอ่านดู   แล้วจะรู้ว่ากลอนไทยไม่ธรรมดา   บางท่านคงเคยอ่านกลอนตอนเป็นเด็ก   ตอนยังเล็กคงแสนเบื่อเป็นหนักหนา   ต้องท่องจำ “อาขยาน” ยาวเป็นวา   ถูกครูว่าโดนครูตีจี้จ้ำไช   อ๊ะ! อย่าพึ่งเบือนหน้าจากขวัญสงฆ์   ขอท่านจงอย่าพึ่งรีบผลักไส   หนังสือกลอนเล่มนี้ดีอย่างไร   เราจะได้รู้กันเมื่ออ่านดู



 ขวัญสงฆ์เป็นเด็กน้อยผู้กำพร้า   ได้หลวงตาอุ้มชูไม่อดสู   เป็นเด็กน้อยซุกซนน่าเอ็นดู     ได้เรียนรู้ประสบการณ์ผ่านเวลา   ท่านผู้เขียนเรียบเรียงกลอนอย่างร้อยแก้ว   คำเพริศแพร้วอ่านสนุกสุดหวือหวา   เพราะกวีมีฝีมือไม่ธรรมดา   ท่านชื่อว่า “ป้าอี๊ด” ชมัยภร   เป็นรุ่นพี่วรรณศิลป์ถิ่นจุฬา   ลือชื่อว่าเป็นยอดศิษย์ถิ่นอักษร   จะนิยายเรื่องสั้นหรือกาพย์กลอน   ทุกบทตอนสอนแง่คิด น่าติดตาม   “หน้าต่างสีชมพู ประตูสีฟ้า”   สอนคุณค่าวัยรุ่นแห่งสยาม   “บันทึกจากลูก(ผู้)ชาย”         นั้นงดงาม   และอย่าข้าม “จดหมายถึงดวงดาว”



 ท่านผู้เขียนกล่าวไว้ในคำนำ   ท่านพูดย้ำว่าเรื่องเด็กและหนุ่มสาว   เขียนครั้งใดพอใจ       อยู่ทุกคราว   ทุกเรื่องราวกลั่นจากใจใสจากกมล



 “… ท่านที่รักขวัญสงฆ์จงโปรดทราบ   คนเขียนอาบน้ำตามาทุกหน   อ่านดังดังครั้งใด      ใจเกินทน   เจ้าขวัญกระโดดชนเข้ากลางใจ   นี่เป็นงานชิ้นที่รักอยู่หนักหนา   เป็นเพราะพ่อสอนมาพอทำได้   เป็นเพราะครูสอนมาภาษาไทย   เป็นเพราะทั้งดวงใจเต็มใจนัก …”



 อ่านสนุกเพราะสำเนียงเสียงสัมผัส   เพราะร้อยรัดเนื้อเรื่องไม่หยึกหยัก   อ่านแล้วขำ      อ่านแล้วซึ้งตรึงใจรัก   ได้ตระหนักถึง “รสธรรม” รินรดจอ



 “… เมื่อจะเกิดเลือกไม่ได้ไม่ใช่หรือ แต่เกิดแล้วนั่นคือต้องสานต่อ
 หากเลือกทำเลือกเป็นเห็นเพียงพอ กรรมย่อมก่อกรรมให้ได้กรรมดี
 เมื่อจะเป็นเลือกได้ไม่ใช่หรือ มีสองมือสรรค์สร้างไปให้เต็มที่
 เมื่อเลือกเป็นแล้วเป็นเต็มชีวี ทุกนาทีคือชีวิตลิขิตตน …”



 จะเชียร์แขกมากไปก็ใช่ที่   หนังสือดีเล่มนี้อ่านหลายหน   จนอยากบอกต่อไปให้ทุกคน   ว่าสุขล้นสนุกจริงยิ่งนะเออ   ทั้งได้รับหลักธรรมเตือนสติ   สมาธิปัญญาดีไม่ไผลเผลอ   ตื้นตันเรื่องกตัญญูที่อ่านเจอ   คงไม่เก้อกตเวทีพ่อแม่เรา



 ได้ออกแขกถึงตอนนี้ก็นานแล้ว   คงรู้แนวเนื้อเรื่องขวัญสงฆ์เขา   ความสนุกอยู่ที่คำ      เสียงหนักเบา   เอ้า! เร็วเข้าหาอ่านกันอย่าช้าชัก



 “… ขอผู้อ่านครึกครื้นชื้นใจอ่าน   ขอรื่นเริงเบิกบาน, อย่าหาญหัก   ค่อยละเลียดอ่านไปทีละวรรค   เปล่งเสียงด้วยจะคึกคักและเปรมปรีดิ์   หากท่านรักขวัญสงฆ์จงรู้ว่า   ขวัญเดินอยู่เบื้องหน้าในทุกที่   หากมีขวัญนำหน้าย่อมยินดี   เพราะขวัญคือสติมีทุกเวลา …”


     ————-


หมายเหตุจากผู้เขียน  ถึงคุณนิธิสาร  พงศ์ปิยะไพบูลย์


 


ขอบคุณที่แนะนำ “ขวัญสงฆ์”ให้  อ่านเท่าไร ๆ ก็ไม่เบื่อ  เพราะเป็นกลอนต่อกลอนไม่ยืดเยื้อ เพราะเขียนเพื่อเลียนล้อต่อศรัทธา  ชื่นใจนัก “นิธิสาร” พนักงานแบงค์ แต่มาแรงเขียนกลอนไม่อ่อนค่า  ทำให้เห็นว่าของไทยแต่ไรมา   หากแก่กล้าหากชื่นชมย่อมสมใจ 



 ไม่เกี่ยวต้องร่ำเรียนเพียรอักษร  ไม่เกี่ยวว่าต้องเรียนกลอนต้องอ่อนไหว  แต่เกี่ยวว่าต้องเรียนรู้อยู่ข้างใน  แต่เกี่ยวว่าต้องมีไฟต้องมีฟืน  ต้องมีในเนื้อในใคร่จะเขียน  ต้องมีความพากเพียรไม่ฝืดฝืน  ต้องมีรักต้องมีฝันต้องยันยืน  ต้องกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวเชี่ยวอารมณ์



 ขอต้อนรับ “นิธิสาร” ผ่านอักษร  ขอต้อนรับนักกลอนคุณค่าสม ขอต้อนรับสู่เวทีมีคำคม  ขอชื่นชมขอขอบคุณ  ขอบคุณนะคะ


ชมัยภร  แสงกระจ่าง
๘ กันยายน ๒๕๕๒