เมื่อสิบปีก่อนฉันมักทำการ์ดอวยพรวันเกิดด้วยตัวเอง โดยวาดภาพบนกระดาษแข็ง ตกแต่งให้สวยงาม(ในความคิดของฉัน) แต่ไม่ลืมเขียนข้อความกำกับด้านข้างภาพ มิเช่นนั้นผู้รับอาจเสียเวลาจินตนาการภาพของฉัน หรือเผลอ ๆ อาจคิดว่าฉันวาดภาพแนว abstract ด้วยซ้ำ เสร็จแล้วนำใส่ซองติดแสตมป์และหย่อนลงตู้ไปรษณีย์ ดังนั้นจึงต้องส่งล่วงหน้า 2 วัน เพื่อให้ถึงมือผู้รับในวันเกิดพอดี เมื่อจินตนาการถึงภาพผู้รับเปิดซองแล้วยิ้มทำให้ฉันมีความสุขไปด้วย เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่ได้เห็นเจ้าของวันเกิดมีรอยยิ้มทุกปี ซึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ฉันไม่เคยลืมวันเกิดของใครคือจดวันเกิดของทุกคนใส่ปฏิทินนั่นเอง

ต่อมาเครื่องมือสื่อสารมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย การกรอกเสียงใส ๆ ผ่านโทรศัพท์ก็สะดวกไปอีกแบบเพราะไม่ต้องกะเวลาล่วงหน้า แต่ไม่นานสายของโทรศัพท์ค่อย ๆ หดจนเป็นโทรศัพท์มือถือ การส่ง SMS (Short Message) ยิ่งสะดวกมากขึ้นเพราะตั้งเวลาเตือนได้ แต่ปัจจุบันการส่งข้อความผ่านมือถือเริ่มจะเชยไปแล้ว เพราะ e-card ทำให้เราสามารถตกแต่งภาพและข้อความได้ตามจินตนาการ จึงเหมาะสำหรับคนวาดภาพไม่แข็งแรงเช่นฉัน ยิ่งไปกว่านั้นสามารถตั้งเวลาการส่งล่วงหน้าได้ด้วย ดังนั้น จึงรับประกันได้ว่าจะไม่ลืมวันเกิดของใครเป็นแน่ ที่สำคัญค่าใช้จ่ายถูกกว่าการทำการ์ดเองหรือซื้อการ์ดสำเร็จรูปที่ต้องจ่ายค่าแสตมป์อีกด้วย แต่ไม่ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาก้าวไกลเพียงใด ฉันยังทำการ์ดและส่งทางไปรษณีย์ให้กับบางคนอยู่เสมอ เพราะภาคภูมิใจที่ได้แสดงความตั้งใจอย่างแท้จริง และการประดิษฐ์ประดอยทำให้ฉันผ่อนคลายจากงานประจำได้พอสมควร (แม้อาจเพิ่มความเครียดให้กับผู้รับบ้างนิดหน่อย)

เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่มีวันเกิดของเพื่อน รุ่นพี่ และญาติของฉันหลายคน สองคนในนั้นคือเพื่อนสนิทและรุ่นพี่ ฉันจำวันเกิดของเพื่อนได้อย่างแม่นยำเพราะตั้งเป็นรหัสเพื่อให้จำได้ง่าย คือ “1111” เมื่อถอดรหัสแล้วเท่ากับ “วันที่ 11 พฤศจิกายน” แล้วก็จำว่ารุ่นพี่วันเกิดก่อนเพื่อนหนึ่งวัน เวลาสิบปีที่ผ่านมาฉันอวยพรวันเกิดให้กับรุ่นพี่ท่านนี้ไม่เคยเว้นแม้แต่ปีเดียว รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำสิ่งเล็กน้อยได้อย่างยิ่งใหญ่ซึ่งน้อยคนนักที่ทำได้เช่นฉัน แต่เมื่อปีที่แล้ว อยู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกอยากอวดเพื่อนว่าฉันได้อวยพรวันเกิดรุ่นพี่อย่างสม่ำเสมอ เพราะคิดว่าเพื่อนสนิทที่มีวันเกิดใกล้กับรุ่นพี่คงลืมวันเกิดของรุ่นพี่ไปแล้วแน่ ๆ

“วันนี้วันอะไรเอ่ย” ฉันตั้งคำถามกับเพื่อนอย่างอารมณ์ดี
“ก็วันเสาร์ไง มีอะไรเหรอดาว” แต่เพื่อนไม่ยักตอบอย่างอารมณ์ดี
“ไม่ใช่ วันที่เท่าไรและพิเศษยังไง”
“10 พฤศจิกายน ไม่เห็นพิเศษยังไง วันหวยออกก็ไม่ใช่นี่นา”
“เฉลยให้ก็ได้ วันเกิดพี่ใหญ่ไง” ฉันแอบดีใจที่เป็นไปตามคาด
“พี่ใหญ่เกิดวันที่ 12 พฤศจิกายน ไม่ใช่เหรอ” เพื่อนแย้งอย่างมั่นอกมั่นใจ

“ไม่ใช่ ดาวจำได้แม่นว่าเขาเกิดก่อนเธอหนึ่งวัน” ฉันยืนยันอย่างมั่นอกมั่นใจเช่นกัน เมื่อไม่มีข้อสรุป ฉันจึงต้องโทรศัพท์ถึงเจ้าของวันเกิด แม้รู้สึกหวั่นใจเล็ก ๆ กับความมั่นใจของเพื่อน
“พี่ใหญ่คะ ดาวขอถามอะไรสักอย่างได้ไหมคะ”
“อะไรจ๊ะน้องดาว”
“พี่ใหญ่เกิดวันนี้ไช่ไหมคะ”
“ไม่ใช่ค่ะ พี่เกิดวันที่ 12” ได้ยินคำตอบของรุ่นพี่แล้ว ทำให้ฉันอึ้งไปครู่หนึ่งทีเดียว
“อ้าว! แล้วทำไมพี่ปล่อยให้ดาวอวยพรวันที่ 10 มาตั้งสิบปีล่ะค่ะ”
“พี่เห็นความตั้งใจของน้องจึงไม่กล้าบอก ดีซะอีกที่ได้รับคำอวรพรของน้องดาวก่อนใครสองวันแน่ะ” น้ำเสียงของรุ่นพี่ดูอบอุ่นเช่นเดิมแต่ครั้งนี้ปนขบขันเล็กน้อย อาจเพราะไม่อยากทำให้ฉันกังวลใจ
“โอยตายแล้ว! แล้ววันที่ 10 พฤศจิกายนเป็นวันเกิดของใครล่ะคะ?”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน…”
สรุปว่าฉันจำวันเกิดรุ่นพี่ผิดไป ความจริงแล้วรุ่นพี่มีวันเกิดหลังเพื่อนสนิทต่างหาก ทำให้อวยพรวันเกิดรุ่นพี่ล่วงหน้ามาเป็นเวลาถึงสิบปี แล้วเป็นได้ไหมที่เจ้าของวันเกิด 10 พฤศจิกายน รอคำอวยพรจากฉันเป็นเวลาสิบปีเช่นกัน

แต่งโดย : เดือนเพ็ญ กะลำพัก

ภาพประกอบจาก
http://www.flickr.com/photos/handmadebyamy/2549410224/